น้ำมันผิวมะกรูดบีบเย็น ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus hystrix DC.
น้ำมันผิวมะกรูดบีบเย็น 100% ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus hystrix DC.
แม้ว่าชาวไทยจะคุ้นชินกับการบริโภคน้ำมันพืช น้ำมันหมูมากกว่า ด้วยราคาที่ย่อมเยา และยังปรุงอาหารได้หลากหลายตามตำรับตำราอาหารไทย แต่หากคุณคือหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น คงจะรู้จัก และเริ่มรับประทานน้ำมันมะกอกกันมาได้สักพักแล้ว เพราะน้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยไขมันที่ดีต่อร่างกาย หากทานในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในร่างกาย และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
แม้ว่าชาวไทยจะคุ้นชินกับการบริโภคน้ำมันพืช น้ำมันหมูมากกว่า ด้วยราคาที่ย่อมเยา และยังปรุงอาหารได้หลากหลายตามตำรับตำราอาหารไทย แต่หากคุณคือหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น คงจะรู้จัก และเริ่มรับประทานน้ำมันมะกอกกันมาได้สักพักแล้ว เพราะน้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยไขมันที่ดีต่อร่างกาย หากทานในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในร่างกาย และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ด้วยสรรพคุณของกรดไขมันโอเมก้า 3 สารไฟโตสเตอรอล และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในถั่วดาวอินคา ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลไม่ดีเข้าสู่เส้นเลือด ทั้งยังป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นของไขมัน จึงทำให้ถั่วดาวอินคามีสรรพคุณช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ซึ่งมีงานวิจัยออกมารองรับแล้วว่าผู้ที่ทานน้ำมันสะกัดจากถั่วดาวอินคาและเมล็ดทานตะวัน มีอัตราการลดลงของคอเรสเตอรอลพอๆกัน แต่กลุ่มที่ทานน้ำมันสกัดถั่วดาวอินคามีคอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือดเพิ่มขึ้น
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ด้วยสรรพคุณของกรดไขมันโอเมก้า 3 สารไฟโตสเตอรอล และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในถั่วดาวอินคา ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลไม่ดีเข้าสู่เส้นเลือด ทั้งยังป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นของไขมัน จึงทำให้ถั่วดาวอินคามีสรรพคุณช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ซึ่งมีงานวิจัยออกมารองรับแล้วว่าผู้ที่ทานน้ำมันสะกัดจากถั่วดาวอินคาและเมล็ดทานตะวัน มีอัตราการลดลงของคอเรสเตอรอลพอๆกัน แต่กลุ่มที่ทานน้ำมันสกัดถั่วดาวอินคามีคอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือดเพิ่มขึ้น
ใช้น้ำมันงาประกอบอาหารรับประทานเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว หลอดเลือดหัวใจตีบตัน และอาการท้องผูก น้ำมันงา ใช้ลดการหมักหมมในช่องท้อง โดยทานน้ำมันงาดิบ ๆ 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะ ขณะท้องว่าง เพื่อให้ลำไส้ขับสิ่งที่หมักหมมอยู่ออกไป น้ำมันงา ใช้ทาผมจะทำให้ผมดำเป็นมันวาว ไม่แห้งแตกปลาย และใช้ทาผิว เพื่อให้ความชุ่มชื้น ลดรอยหยาบกร้าน ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง น้ำมันงาใส่ขิง ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย โดยใช้ขิงสดขูดละเอียดผสมกับน้ำมันงาในปริมาณเท่ากัน จุ่มผ้าฝ้ายลงในส่วนผสมนี้ นำมาถูนวดบริเวณที่ปวดเมื่อย ใช้กระเทียมสับผสมน้ำมันงา รักษาโรคผิวหนังอย่างกลาก เกลื้อน เรื้อนกวาง ทาบริเวณที่มีอาการ
ใช้น้ำมันงาประกอบอาหารรับประทานเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว หลอดเลือดหัวใจตีบตัน และอาการท้องผูก น้ำมันงา ใช้ลดการหมักหมมในช่องท้อง โดยทานน้ำมันงาดิบ ๆ 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะ ขณะท้องว่าง เพื่อให้ลำไส้ขับสิ่งที่หมักหมมอยู่ออกไป น้ำมันงา ใช้ทาผมจะทำให้ผมดำเป็นมันวาว ไม่แห้งแตกปลาย และใช้ทาผิว เพื่อให้ความชุ่มชื้น ลดรอยหยาบกร้าน ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง น้ำมันงาใส่ขิง ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย โดยใช้ขิงสดขูดละเอียดผสมกับน้ำมันงาในปริมาณเท่ากัน จุ่มผ้าฝ้ายลงในส่วนผสมนี้ นำมาถูนวดบริเวณที่ปวดเมื่อย ใช้กระเทียมสับผสมน้ำมันงา รักษาโรคผิวหนังอย่างกลาก เกลื้อน เรื้อนกวาง ทาบริเวณที่มีอาการ
งาม้อน ที่ว่านี้ เป็นพืชสมุนไพรที่มีประวัติการใช้ได้เป็นทั้งอาหารและยาในประเทศแถบเอเชียมานานแล้ว ที่สำคัญ ล่าสุดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน จ.น่าน มีการวิจัยมล็ดงาม้วน พบว่ามีสาร "โอเมก้า 3" ในงาม้อน ซึ่งสารที่ว่านี้สำคัญมากครับ คือจะช่วยบำรุงสมอง ชะลอความแก่ แก้เคล็ดขัดยอก ลดริ้วรอยบนใบหน้า บำรุงผิว
งาม้อน ที่ว่านี้ เป็นพืชสมุนไพรที่มีประวัติการใช้ได้เป็นทั้งอาหารและยาในประเทศแถบเอเชียมานานแล้ว ที่สำคัญ ล่าสุดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน จ.น่าน มีการวิจัยมล็ดงาม้วน พบว่ามีสาร "โอเมก้า 3" ในงาม้อน ซึ่งสารที่ว่านี้สำคัญมากครับ คือจะช่วยบำรุงสมอง ชะลอความแก่ แก้เคล็ดขัดยอก ลดริ้วรอยบนใบหน้า บำรุงผิว
น้ำมันรำข้าวมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acid: MUFA) สูงกว่า 40% ของปริมาณกรดไขมันทั้งหมด ซึ่ง MUFA นี้เป็นตัวช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และยังสามารถเพิ่มหรือคงระดับคอเลสเตอรอลที่ดี น้ำมันรำข้าวมีสัดส่วนกรดไขมันในปริมาณที่สมดุล เหมาะสมต่อผู้บริโภคที่สุดตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Heart Association: AHA) และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) ซึ่งสัดส่วนกรดไขมันที่เหมาะสมนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง
น้ำมันรำข้าวมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acid: MUFA) สูงกว่า 40% ของปริมาณกรดไขมันทั้งหมด ซึ่ง MUFA นี้เป็นตัวช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และยังสามารถเพิ่มหรือคงระดับคอเลสเตอรอลที่ดี น้ำมันรำข้าวมีสัดส่วนกรดไขมันในปริมาณที่สมดุล เหมาะสมต่อผู้บริโภคที่สุดตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Heart Association: AHA) และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) ซึ่งสัดส่วนกรดไขมันที่เหมาะสมนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง
สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทยได้จัดการสัมมนาเรื่อง "น้ำมันมะพร้าวกะทิและมะพร้าวกะทิมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร" ขึ้น โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ประธานเครือข่ายพืชปลูกเมืองไทย ได้บรรยายสรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวไว้อย่างน่าคิด จากคำบรรยายรุบุว่า แม้น้ำมันมะพร้าวจะเป็นกรดไขมันอิ่มตัว แต่กรดไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าว 48-54% เป็นกรดลอริค (Lauric Acid) และอีก 6-7% เป็นกรดไขมันคาปริค (Capric Acid) ซึ่งทั้งหมดเป็นกรดไขมันที่มีโครงสร้างทางเคมีแตกต่างจากกรดไขมันชนิดอื่นตรงที่กรดไขมันชนิดนี้จะแตกตัวและถูกย่อยได้ง่ายกว่า ไม่จำเป็นต้องอาศัยน้ำดีจากตับอ่อนมาช่วยย่อย ไขมันจึงเปลี่ยนเป็นพลังงานได้หมด ไม่เกิดการสะสมเป็นไขมันในหลอดเลือด หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย กรดไขมันลอริคชนิดนี้ยังเป็นชนิดเดียวกับที่พบในน้ำนมแม่ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะแตกตัวออกเป็นโมโนลอริน (Monolaurin)
สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทยได้จัดการสัมมนาเรื่อง "น้ำมันมะพร้าวกะทิและมะพร้าวกะทิมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร" ขึ้น โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ประธานเครือข่ายพืชปลูกเมืองไทย ได้บรรยายสรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวไว้อย่างน่าคิด จากคำบรรยายรุบุว่า แม้น้ำมันมะพร้าวจะเป็นกรดไขมันอิ่มตัว แต่กรดไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าว 48-54% เป็นกรดลอริค (Lauric Acid) และอีก 6-7% เป็นกรดไขมันคาปริค (Capric Acid) ซึ่งทั้งหมดเป็นกรดไขมันที่มีโครงสร้างทางเคมีแตกต่างจากกรดไขมันชนิดอื่นตรงที่กรดไขมันชนิดนี้จะแตกตัวและถูกย่อยได้ง่ายกว่า ไม่จำเป็นต้องอาศัยน้ำดีจากตับอ่อนมาช่วยย่อย ไขมันจึงเปลี่ยนเป็นพลังงานได้หมด ไม่เกิดการสะสมเป็นไขมันในหลอดเลือด หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย กรดไขมันลอริคชนิดนี้ยังเป็นชนิดเดียวกับที่พบในน้ำนมแม่ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะแตกตัวออกเป็นโมโนลอริน (Monolaurin)
ผลิตจากเมล็ดมะรุมภายในประเทศ เป็นน้ำมันบีบเย็นที่ทางร้านผลิตเอง ไม่มีส่วนผสมใดๆ ไม่มีการแต่งสีและกลิ่น น้ำมันมีอายุ 1ปีหลังการเปิด
ผลิตจากเมล็ดมะรุมภายในประเทศ เป็นน้ำมันบีบเย็นที่ทางร้านผลิตเอง ไม่มีส่วนผสมใดๆ ไม่มีการแต่งสีและกลิ่น น้ำมันมีอายุ 1ปีหลังการเปิด